สันตะวา – ณัฐณรา
“ไม่ต้องร้อง”
เสียงแหบเหมือนเป็ดเทศเพราะเจ้าตัวอายุสิบสามย่างสิบสี่
เป็นวัยที่เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงจากเด็กชายเป็นเด็กหนุ่มดังขึ้น
‘พี่โป’ ทรุดตัวลงนั่งยองๆหน้าเด็กหญิง มือดึงผ้าเช็ดหน้า
ในกระเป๋ากางเกงนักเรียนมาเช็ดแก้ม เช็ดน้ำตา แล้วก็กดที่จมูก
ให้อีกฝ่ายสั่งน้ำมูกดังพรึ่ดอย่างรวดเร็วแต่ก็เบามือมาก
เป็นกริยาที่ทำอย่างคุ้นเคย เหมือนทำมาแล้วเป็นร้อยๆครั้ง
“พี่โป หนูวาไม่ได้เป็นเด็กปากเจ็บ ไม่ด่าคนอื่นแล้วก็ไม่ได้ขี้ฟ้องนะ
อ๊ตบอกว่าหนูวาขี้ฟ้อง หนูวาไม่ได้ขี้ฟ้องสักหน่อย”
คนไม่ขี้ฟ้องบอกเสียงเครือ ชี้นิ้วไปยังเด็กชาย
ที่กำลังลุกยืนปัดกางเกงนักเรียนอยู่
“อือ… หนูวาไม่ได้ขี้ฟ้อง”
คนโตกว่าพยักหน้ารับ หันไปมองเด็กชายที่ชื่อโอ๊ตเงียบๆ
ดวงตาของเด็กชายวัยสิบสี่ค่อนข้างกลมโต ยิ่งเจ้าตัวเป็นคนผอม
หน้าเรียวเล็กก็ยิ่งทำให้ดวงตาสีเข้มดูโตใหญ่ยิ่งขึ้น
คนโดนจ้องกะพริบตาปริบ นึกกลัวขึ้นมา ใครจะไปรู้ว่ายายผมเปีย
มีพี่ชายโตขนาดนี้ล่ะ! แถมพี่ชายก็ดันโผล่มาเห็นตอนน้องโดนแกล้งด้วย
เพื่อนในกลุ่มที่รุมล้อเลียนเด็กใหม่พากันเงียบกริบ
พวกเขามองพี่ผู้ชายที่ถึงจะดูผอมเก้งก้าง แต่ก็ตัวสูงกว่า
แรงเยอะกว่าและโตกว่าตัวเองตั้งเยอะ ถ้าอีกฝ่ายโมโหแล้วตีกลับขึ้นมาล่ะ
ต่อให้ขนมของโอ๊ตอร่อยแค่ไหน แต่ไม่คุ้มกับโดนตีกลับบ้านหรอก
เด็กลูกสมุนหน้าเสีย เกาะกลุ่มกันยืนเงียบๆ
“เจ็บไหม”
เด็กชายในชุดนักเรียนมัธยมต้นถาม เขาช่วยเหนี่ยวแขนเด็กหญิงให้ลุกยืน
มือปัดฝุ่นตามกระโปรงนักเรียนสีน้ำเงินให้ หยิบเศษหญ้าออกจากถุงเท้า
ขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยแดงๆตรงขาของน้อง คราวนี้หันไปจ้องเด็กหัวโจก
นักเลงอีกรอบ คิ้วผูกปมอย่างโมโหขึ้นมารำไร