ม่านรักจารชน – แก้วจอมขวัญ
เชส ยังอยู่ในชุดเดิม เขากำลังยืนกอดอกอยู่ริมกระจกกั้นระเบียงในส่วนของห้องนั่งเล่น
แสงแดดสว่างจ้าโอบรอบชุดสีดำทั้งชุดที่สวมอยู่ มองคล้ายออร่าของซาตานในโลกมืด
หากเวลาผ่านไปมากกว่าสิบวินาทีเขาก็ยังคงนิ่ง ไม่พูดไม่จา มีเพียงสายตาที่ทำเอาเธอหน้าร้อน
ต้องรีบดึงชายเสื้อเอวลอยลงมาปิดหน้าท้องขาวๆ ของตัวเอง แก้วสวรรค์จึงถามอย่างอดไม่ได้
“มี…อะไรผิดปกติบนตัวฉันเหรอคะ มองอยู่ได้”
ก็แค่เธอเปลี่ยนจากชุดลำลองเรียบหรู มาเป็นมินิสเกิร์ตกับเสื้อกล้ามสีชมพูเอวลอยเท่านั้นเอง
“คุณชอบขี่ม้าไหม”
จู่ๆ คนที่เงียบอยู่ก็ถามเสียงเย็น
“อะ…อะไรนะ!”
คนถูกถามแทบผงะ ดวงตาสีน้ำผึ้งขยายกว้าง มนุษย์น้ำแข็งนี่มอง…
หน้าอกวกขึ้นมาใบหน้าของเธอ…ขึ้นลงๆ จากนั้นก็ถามว่า ‘ชอบขี่ม้าไหม’
“อยากขี่ม้าไหม ชอบหรือเปล่า”
เชสถามคำถามเดิม สายตาที่กวาดมองไปทั่วร่างบอบบาง
หยุดสบประสานกับดวงตาที่มองมาเหมือนตกตะลึง เขาหรี่สายตาแคบกับอาการท่าทางที่เห็น
นึกสงสัยว่า มันมีอะไรที่ต้องตกใจ ตื่นตะลึงกับคำถามปกติธรรมดาของเขา
คนถูกถามสูดหายใจ ตวัดสายตาใส่ เธอต้องพูดออกมาตรงๆ เลยหรือไง
ว่ายังไม่เคยมีใครมาชวนขี่ ทั้งๆ ที่หลังจากคืนก่อนกับเมื่อคืน เขาน่าจะรู้ดีที่สุด!
“ฉันขี่ไม่เก่งค่ะ ไม่มีเวลาฝึก”
ตอบเสียงสะบัด พร้อมกับความร้อนที่ลามจากใบหน้า ไปยังลำคอและส่วนอื่นๆ
…ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอต้องมาพูดเรื่องแบบนี้กับผู้ชาย!
“งั้นก็ไปฝึกกัน”
เชสพยักหน้าให้ ก่อนจะขยับตัวเดินตรงเข้าไปหา หยุดยืนห่างจากอีกฝ่ายเพียงก้าวเดียว
“ดะ…เดี๋ยวสิ! อะไร ฉันยังไม่โอเคด้วยเลยนะ จะบ้าเหรอ ถึงจะบอกว่า…เอ่อ บอกว่าชอบคุณน่ะ
แต่เรื่องแบบนี้ฉันก็ไม่ใช่พวกเปิดปุ๊บติดปั๊บนะ แล้วขอน่ะ
ทำท่าทางเย็นเป็นน้ำแข็งขั้วโลกแบบนี้ฉันไม่สนหรอก… ถึงแม้เมื่อคืนนี้จะเหมือนเสนอก็เถอะ”
หยุดพึมพำเบาๆ ก่อนจะพูดต่อเต็มเสียง
“ฉันชอบผู้ชายลุคอบอุ่น อ่อนโยน ดวงตาก็ต้องหวานเชื่อม ถ้าคุณทำแบบนั้นฉันอาจจะ…”
“คุณไม่มีทางเลือก ผมสามารถฝึกให้คุณควบเก่งกว่าทุกคนที่คุณเคยเจอมาตลอดชีวิต
เร็วสิ อย่าทำให้เราเสียเวลาได้ไหม”
น้ำเสียงของเขาเริ่มหงุดหงิด เช่นเดียวกับแววตากับสเปกครูสอนขี่ม้าที่เธอชอบ
“อะ…ไอ้บ้า! ก็รู้อยู่ว่าฉันยัง…ยังซิง! คุณยังจะมาพูดจาอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกนะ”
คราวนี้เป็นเชสที่ชะงักคิดตามไม่ทัน คิ้วเข้มเหนือดวงตาสีน้ำตาลเย็นชา
ที่มองตรงไปยังใบหน้าแดงก่ำของ ‘คนซิง’ ขมวดมุ่น ครู่ใหญ่
ก่อนที่เสียงเรียบเย็นจะเอ่ยขึ้น ขัดกับแววตาที่พราวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ไปเปลี่ยนชุด ใส่กางเกงหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไอ้กระโปรงคืบนึงนั่น แล้วเราจะไปฝึกขี่ม้ากัน”
ร่างสูงใหญ่สาวเท้าก้าวเข้าไปอีกหนึ่งก้าว ใบหน้าแดงก่ำที่เห็นทำให้เขาอดไม่ได้
ที่จะใช้ปลายนิ้วชี้เคาะจมูกเชิดรั้นเบาๆ สองที พร้อมกับที่มุมปากกดเป็นรอยยิ้ม
“และผมหมายถึงม้าจริงๆ ที่มีสี่ขา ไม่ใช่ควบม้าบนเตียงอย่างที่จิตใต้สำนึกของคุณเรียกร้องหา คุณทนาย”
“โอ…เอ่อ ขี่ม้า เอ่อ…ใช่ เราต้องไปขี่ม้า”
อับอายจนอยากจะมุดดินหนีเป็นอย่างไรเธอเพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง
ใบหน้าที่แดงก่ำอยู่แล้วยิ่งแดงจนเจ้าตัวกลัวว่ามันจะปริแตกในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง
พระเจ้า! นี่เธอมีความคิดลึกล้ำต่อยอดยาวไกลเป็นกิโลอย่างนั้นได้ยังไง